เป็นเวลากว่าเจ็ดสิบปีที่ผู้คนขับรถไปยังพื้นที่ทะเลทรายห่างไกลใกล้เมือง Yuma ในรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯเพื่อเขียนชื่อและทิ้งข้อความไว้บนพื้นทราย ซึ่งแตกต่างจากกราฟฟิตีทั่วไปที่มักสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ข้อความของ Valley of Names ถูกสะกดโดยการจัดเรียงด้วยก้อนหินขนาดเล็กอย่างระมัดระวังในทรายสีขาวที่อัดแน่น
การปฏิบัติดังกล่าวอาจเริ่มขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อนายพล George Patton ของกองทัพสหรัฐฯนำทหารของเขามายังพื้นที่ราบหินแห่งนี้เพื่อฝึกซ้อม ค่ายฝึกนี้เรียกว่า "ศูนย์ฝึกทะเลทราย" เป็นสนามฝึกทหารที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การซ้อมรบทางทหาร บริเวณแคมป์ทอดยาวจากชานเมืองPomona /แคลิฟอร์เนียไปยัง Phoenix /แอริโซนาไม่เกิน 50 ไมล์ และจากชานเมือง Yuma ถึงปลายสุดทางใต้ของ Nevada
ข้อความที่เก่าที่สุดน่าจะเกิดขึ้นโดยทหาร และพื้นทรายที่ใช้ชื่อว่า Graffiti Mesa หลังสงครามพื้นที่ถูกค้นพบอีกครั้งและในปี 1960 ประเพณีการเรียงหินชื่อได้กลายเป็นพิธีกรรมสำหรับชาวออฟโรดในท้องถิ่น จนในปี 1970 พื้นที่สี่เอเคอร์ที่มีชื่อไม่กี่ร้อยชื่อได้ขยายตัวจนกลายเป็นหลายพันชื่อกระจายอยู่ทั่วพื้นทะเลทราย 1,200 เอเคอร์
ทุกๆสองสามปี ทีมอาสาสมัครจะออกไปกำจัดเศษซากต่างๆจากลมที่พัดเข้ามาในทะเลทรายชื่อนี้ และนำก้อนหินใหม่มาวางแทนที่หินที่อาจถูกพายุพัดไป ข้อความเหล่านี้ถือว่ามีค่าโดยบางชื่อมีอายุมากกว่าห้าสิบปีขึ้นไป
ก่อนหน้านี้มีหินลาวาจำนวนมากทางด้านตะวันออกของเนินเขาให้ใช้งานได้ ตอนนี้ถูกนำมาใช้หมดแล้ว ผู้เยี่ยมชมจะต้องนำหินมาสร้างกราฟฟิตีชื่อของตัวเอง มีบางคนกลับมาที่ Valley of Names นี้แล้วเป็นเวลากว่า 20 ปี
Valley of Names ข้อความลึกลับที่จัดเรียงด้วยก้อนหินขนาดเล็กไว้บนพื้นทราย