ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

ชาวนาชาวปาเลสไตน์ ขุดพบพื้นกระเบื้องยุคไบแซนไทน์ รูปนกและสัตว์ต่างๆสารพัดสี พบโดยบังเอิญที่ฉนวนกาซา ขณะกำลังปลูกต้นไม้ในที่ดินของเขา

ค้นหา

ชาวนาชาวปาเลสไตน์ ขุดพบพื้นกระเบื้องยุคไบแซนไทน์ รูปนกและสัตว์ต่างๆสารพัดสี พบโดยบังเอิญที่ฉนวนกาซา ขณะกำลังปลูกต้นไม้ในที่ดินของเขา

👉🏿การค้นพบวัตถุโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากที่สุดของโลกพื้นกระเบื้องบุคไบแซนไทน์รูปนกและสิงสาราสัตว์สารพัดสี แสดงเห็นความคิดสร้างสรรค์และงานศิลปะชั้นสูงอันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์สมัยก่อนที่สร้างสรรค์ศิลปะอันวิจิตรพิสดารเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม

🙄เมื่อวันอาทิตย์ ซัลมาน อัล-นาบาฮิน ชาวนาชาวปาเลสไตน์ ทำความสะอาดพื้นกระเบื้องโมเสคที่เขาค้นพบในไร่ปศุสัตว์ของเขาในฉนวนกาซา โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า กระเบื้องโมเสคนี้มีอายุย้อนไปถึงยุคไบแซนไทน์

พื้นกระเบื้องบุคไบแซนไทน์รูปนกและสิงสาราสัตว์สารพัดสี ถูกค้นพบโดยับงเอิญที่ฉนวนกาซา หลังอัล-นาบาฮิน กำลังปลูกต้นไม้ในที่ดินของเขา

👉🏿ชาวนาผู้นี้พบกระเบื้องดังกล่าวเมื่อหกเดือนที่แล้ว ขณะกำลังทำงานในสวนมะกอกในค่ายผู้ลี้ภัยบูเรจ ห่างจากชายแดนอิสราเอลราวหนึ่งกิโลเมตร

อัล-นาบาฮิน กล่าวว่า เขาและลูกชายเริ่มขุดดินเพื่อหาว่า ทำไมต้นไม้บางต้นถึงหยั่งรากลึกลงดินไม่ได้ และขวานของลูกชายเขาก็สัมผัสกระทบกับวัตถุบางสิ่งที่ไม่คุ้นตา

🧔🏻ชาวนาพ่อลูกเจ็ดผู้นี้กล่าวต่อว่า เขาค้นหาบนอินเตอร์เน็ตก่อนพบว่า สิ่งที่เขาพบคือกระเบื้องโมเสคยุคไบแซนไทน์ เขาเห็นว่ากระเบื้องนี้มีคุณค่ายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติ และไม่ได้เป็นของเขาแต่ผู้เดียว แต่เป็นของชาวปาเลสไตน์ทุกคน

กระทรวงท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของปาเลสไตน์ระบุว่า พื้นกระเบื้องดังกล่าวมีหลายช่อง แสดงภาพสัตว์และวิถีชีวิตของผู้คนในยุคไบแซนไทน์

ทางกระทรวงระบุในแถลงการณ์ว่า การค้นพบทางโบราณคดีครั้งนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น โดยทีมวิจัยแห่งชาติกำลังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์จากวิทยาลัยโบราณคดีฝรั่งเศส เพื่อศึกษากระเบื้องโมเสคดังกล่าว

ทั้งนี้ พื้นที่กาซาเต็มไปด้วยโบราณวัตถุ เนื่องจากเคยเป็นแหล่งค้าขายที่สำคัญในอดีต นับตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ ยุคจักรวรรดิโรมัน ไปจนถึงยุคครูเสด

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีการค้นพบโบราณวัตถุหลายครั้งในกาซา แต่เนื่องจากปัญหาการขาดเงินทุนและผู้เชี่ยวชาญ กาซาจึงมักเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเพื่อช่วยขุดค้นหาและรักษาวัตถุโบราณเหล่านี้

👉🏿สาระข้อมูลเพิ่มเติม ศิลปะไบแซนไทน์
ศิลปะคริสเตียนยุคแรก
(พ.ศ. 640–1040) และ ศิลปะไบแซนไทน์ (พ.ศ. 1040–1996) ศิลปะคริสเตียนยุคแรก รับอิทธิพลมาจากศิลปะกรีกโบราณ

ภาพโมเสก ศิลปะไบแซนไทน์ ที่สุเหร่าโซเฟีย

ศิลปะไบแซนไทน์ หมายถึงศิลปะของรัฐที่นับถือนิกายอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์ซึ่งอยู่ในระยะเวลาเดียวกับอาณาจักรไบแซนไทน์แต่มิได้เป็นอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรไบแซนไทน์ เช่น ประเทศบัลแกเรีย เซอร์เบีย หรือรุส รวมทั้งศิลปะของรัฐอาณาจักรเวนิส และราชอาณาจักรซิซิลี ศิลปะของผู้นับถือนิกายอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์ที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิออตโตมันมักจะเรียกว่า ศิลปะหลังไบแซนไทน์ ศิลปะไบแซนไทน์บางลักษณะที่เริ่มจากอาณาจักรไบแซนไทน์โดยเฉพาะการเขียนภาพแบบที่เรียกว่า "รูปสัญลักษณ์" (icon) และสถาปัตยกรรมการสร้างศาสนสถานยังคงทำกันอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ในประเทศกรีซ ประเทศรัสเซีย และบางประเทศที่อยู่ในเครืออีสเติร์นออร์โธด็อกซ์

👨‍🏭สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ อาคารในสมัยแรกนั้นจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ถูกฆ่าเรื่องศาสนา วิหาร พิธีเจิมน้ำมนต์ ผนังภายนอกอาคารจะถูกปล่อยไว้เรียบ ๆ ทื่อ ๆ ผนังภายในอาคารจะประดับด้วยเศษหินสีแวววาว ส่วนต่าง ๆ ของอาคาร เช่น เสารายแบบโรมัน เสาก่ออิฐ หลังคาทรงโค้ง แผนผังอาคารมี 2 แบบ คือ แบบชนิดตามยาว และแบบชนิดศูนย์กลาง ซึ่งมีรากฐานมาจากสถาปัตยกรรมโรมัน อาคารที่มีแนวยาวเหมาะสำหรับขบวนพิธีการที่สง่างาม อาคารชนิดมีศูนย์กลาง สำหรับเป็นสถูปสถานของนักบุญคนสำคัญ แต่ต่อมานิยมสร้างโบสถ์แบบมีศูนย์กลางกันมาก อาคารแบบมีศูนย์กลางอาจมี หลายรูปทรง เช่น ทำเป็นรูปทรงไม้กางเขนกรีก อยู่ภายในรูปจัตุรัส หรือไม่ก็รูปวงกลม โบสถ์ที่มีผังชนิดมีศูนย์กลางมักทำหลังคาทรงโค้ง หรือทรงกลมด้วย อิฐหรือหิน อาคารทรงเรือนโถงขนาดใหญ่มักทำเครื่องบนหลังคาด้วยไม้ท่อน

🎨จิตรกรรม
ทำบนฝาผนังและแผงไม้ ตลอดจนทำเป็นภาพประกอบเรื่องในหนังสือ เขียนด้วยสีฝุ่น สีขี้ผึ้งร้อน และสีปูนเปียกอย่างแห้ง แสดงรูปคนกำลังสวดมนต์ และภาพปาฏิหาริย์ตอนสำคัญของพระผู้เป็นเจ้าที่นำมาจากพระคัมภีร์เก่าและใหม่ หนังสือในสมัยแรก ๆ ทำมาจากหนังสัตว์และเป็นหนังสือม้วน ภาพประกอบเรื่องในหนังสือแสดงให้เห็นความเป็นธรรมชาติ โดยแก้ไขให้เป็นเชิงสัญลักษณ์มากกว่าจะเป็นธรรมชาติแท้ ๆ ลักษณะของภาพเป็นรูปแบนและเป็นการใช้สีอย่างประหลาด ๆ

💥งานประติมากรรม
ในยุคคริสเตียนถูกลดความสำคัญ อันเนื่องมากจากบทบัญญัติในพระคัมภีร์ เกี่ยวกับรูปเคารพบูชาประติมากรรมมักจำกัดอยู่กับงาน ขนาดเล็ก ๆ ได้แก่งานแกะสลักรูปคนบนโลงศพ ถ้วยและจานโลหะ งาแกะ สลักงาช้าง โกศบรรจุธาตุศักดิ์สิทธิ์

คำว่า "ไบแซนไทน์ " เรียกตามชื่อจักรวรรดิไบแซนไทน์ ที่มีกรุงคอนสแตนติโนเปิลเป็นเมืองหลวง (ปัจจุบันคือนครอิสตันบูลในประเทศตุรกี) ลักษณะศิลปะไบแซนไทน์ มีลักษณะคาบเกี่ยวกับศิลปะคริสเตียนอยู่มาก และยังมีสืบเนื่องกันต่อมาเป็นเวลาอีกยาวนาน โดยมีลักษณะศิลปะแบบตะวันออกมาผสมผสานอยู่ด้วย

👉🏿จากบทความนี้..หวังว่าคงจะมีประโยชน์และให้สาระความรู้ บ้างพอสมควรนะครับ

คลิปประกอบบทความ

รายการบล็อกของฉัน