ข้อมูลจาก นิตยสาร สกุลไทย บทความ ฉบับที่ 638 ปีที่ 27 ปักษ์แรก เดือนกันยายน พ.ศ. 2545 บันทึกวัฒนธรรม: “ขรัวอินโข่ง”...ช่างเขียนไทยยุคนิยมฝรั่ง
ภาพวาดของขรัวอินโข่ง |
“ช่าง เขียน” หรือจิตรกรไทยในยุคต้นรัตนโกสินทร์มีทั้งที่เป็นฆราวาสและที่อยู่ในเพศ บรรพชิต “ขรัวอินโข่ง” คือพระภิกษุรูปหนึ่งที่จัดว่าเป็นศิลปินชั้นครูในงานจิตรกรรมไทย ท่านถือเพศบรรพชิตตลอดชีวิตโดยบวชเป็นพระอยู่ที่วัดราชบูรณะ
(วัดเลียบ) กรุงเทพฯ
เดิม “ขรัวอินโข่ง” เป็นชาวบ้านบางจาน จ.เพชรบุรี มีชื่อเดิมว่า “อิน” ส่วนนาม “ขรัวอินโข่ง” นั้นเป็นฉายาที่เสริมคุณสมบัติของท่านให้ชัดเจนขึ้น ที่มาของคำว่า “ขรัว” และ โข่ง” ซึ่งนำหน้าและต่อท้ายจากชื่อ “อิน” ของท่านมีความหมายตามพจนุกรม ดังนี้
“ขรัว” เป็นคำเรียกภิกษุที่มีอายุมากหรือบวชเมื่อแก่ นอกจากนี้ยังเป็นคำที่ใช้กับผู้ที่คร่ำเคร่งบางสิ่งบางอย่าง ถ้าเป็นพระชราหรือหัวเก่าจะมีคำว่า “ขรัว” นำหน้า ส่วนคำว่า “โข่ง” สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ได้ทรงอธิบายไว้ว่า
“ขรัว อินโข่ง (ช่างเขียน) เคยไต่สวนกันทำไมถึงฉายาว่าโข่ง เขาบอกว่าเป็นเณรอยู่เกินกาล จึงเรียกว่า “อินโข่ง” ทำให้เข้าใจไปว่าเขียนผิด อ่านผิด แต่เดี๋ยวนี้มานึกขึ้นได้ว่าไม่ผิด หอยโข่งมีเป็นอย่างอยู่เช่น หอยโข่ง เณรโข่ง ก็เณรใหญ่โค่งหรือโข่ง เป็นคำเดียวกัน ความหมายว่าใหญ่เหมือนกัน...”
ในความเป็นจริงชื่อ “ขรัวอินโข่ง” คงจะเป็นชื่อสามัญที่นิยมกันในหมู่ประชาชนคนรู้จักทั่วๆ ไป ส่วนชื่อที่เรียกอย่างเป็นทางการของขรัวอินโข่งก็คือ “พระอาจารย์เดิม” ขรัวอินโข่งเป็นช่างเขียนที่มีฝีมือและมีชื่อเสียงมากในรัชสมัยพระบามสมเด็จ พระจยอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยถือเป็นช่างเขียนที่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมาโดยตลอด ความใกล้ชิดกับรัชกาลที่ 4 นั้นคงเริ่มตั้งแต่ครั้งที่พระองค์ยังทรงผนวชอยู่ แม้แต่ต่อมารัชกาลที่ 4 จะได้เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ก็ยังคงรับสั่งเรียกหาขรัวอินโข่งอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะทรงมีพระราชประสงค์สร้างหรือปฏิสังขรณ์พระอารามแห่งใดก็มักทรงโปรดฯ ให้ขรัวอินโข่งวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังประดับโบสถ์และวิหารเหล่านั้นเสมอ
มีบุคลิกลักษณะนิสัยที่แปลกคล้ายศิลปินทั่วๆ ไปที่มักมีโลกส่วนตัว
ขรัวอินโข่งไม่ชอบรับแขก ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ ในกุฏิ เพราะเหตุนี้กุฏิของท่านจึงมักปิดประตูใส่กุญแจข้างนอกตลอดเวลา คงเกรงว่าหากมีคนมาหามากๆ จะเป็นการทำลายสมาธิในการทำงานส่วนเวลาที่ท่านจะออกนอกกุฏิก็จะใช้วิธี ปีนออกทางหน้าต่าง
การเขียนภาพจิตรกรรมในยุค “ขรัวอินโข่ง” ในช่วงรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นยุคที่นิยมฝรั่ง ประเทศไทยขณะนั้นกำลังพัฒนาประเทศในทุกๆ ด้าน เพื่อให้มีความเจริญทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ “ขรัวอินโข่ง”
จึงเป็นจิตรกรช่างเขียนไทยคนแรกที่เขียนภาพทิวทัศน์ผู้คนแบบประเทศตะวันตกบน ผนังโบสถ์ ใช้ตัวละครและสถานที่แบบฝรั่ง และยังเป็นคนแรกที่ริเริ่มวาดภาพแบบ 3 มิติ คือเป็นภาพที่มีความลึก เน้นที่แสงและเงา ใช้สีไม่ฉูดฉาดแบบภาพเขียนทางยุโรปซึ่งต่างจากภาพเขียนไทยในอดีต
ภาพ เขียนของ “ขรัวอินโข่ง”
ได้อาศัยเค้าโครงจากภาพพิมพ์ที่แพร่เข้ามาเมืองไทยจากกลุ่มมิชชันนารี เป็นภาพที่ส่งเข้ามาจำหน่ายในบางกอกขณะนั้น ด้วยอัจฉริยภาพในด้านจิตรกรรมของขรัวอินโข่งท่านสามารถสร้างจินตนาการเขียน ภาพจิตรกรรมไทยที่มีกลิ่นอายของบรรยากาศฝรั่งได้อย่างงดงามและน่าทึ่ง ผลงานบางภาพแม้จะเป็นบรรยากาศฝรั่งแต่เรื่องราวของภาพกลับเป็นปริศนาธรรมที่ แสดงออกได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ผลงานของท่านยังแสดงให้เห็นถึงสภาพสังคมไทยขณะนั้นที่ดำเนินชีวิต ตามคตินิยมทางพุทธศาสนา เช่นภาพวาดภายในพระอุโบสถวัดมหาสมณาราม จ.เพชรบุรี ซึ่งบอกเล่าถึงการไปนมัสการพระพุทธบาทที่ท่านเขียนให้เห็นถึงบรรยากาศต่างๆ ได้อย่างละเอียด ชัดเจน
ผลงานของ “ขรัวอินโข่ง” ที่ยังมีหลักฐานอยู่ในปัจจุบันมีอาทิสมุดภาพร่างเป็นภาพเขียนแบบไทยเดิมเช่นวาดเส้นภาพหน้าคน หน้าลิง ปัจจุบันอยู่ที่หอสมุดแห่งชาติ
ภาพเขียนสุภาษิตที่หน้าต่างพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วาดเป็นรูปตัวละครไทย
ภาพ วาดสีฝุ่นเรื่อง “ทศชาติ” จำนวน 5 ภาพ แต่ละภาพมีขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 1.50 เมตร ภาพดังกล่าวยังวาดไม่สมบูรณ์เป็นภาพธรรมชาติ ต้นไม้ ภูเขา มีภาพบุคคลเป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์หอศิลป์ ถนนเจ้าฟ้า
ภาพวาดพระราช พงศาวดารในหอราชกรมานุสรและหอราชพงศานุสรวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นภาพเล่าเรื่องเหตุการณ์เกี่ยวกับการรบระหว่างไทยพม่า และการรบพุ่งในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ภาพวาดภายในพระอุโบสถวัด
มหาสม ณาราม จ.เพชรบุรี เป็นภาพที่แสดงถึงการไปนมัสการพระพุทธบาท จ.สระบุรี นับเป็นงานชิ้นเดียวที่เขียนขึ้นในจังหวัดอันเป็นบ้านเกิดของท่าน
ภาพวาดที่มณฑปพระพุทธบาท วัดพระงาม จ.พระนครศรีอยุธยา ลักษณะเป็นภาพไทยผสมกับเทคนิคการเขียนธรรมชาติแบบยุโรป
ภาพวาดภายในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ เป็นภาพปริศนาธรรมที่มีบรรยากาศและตัวละครทั้งหมดเป็นแบบฝรั่งตะวันตก
ภาพวาดภายในพระอุโบสถวัดบรมนิวาสเป็นภาพปริศนาธรรมลักษณะคล้ายกับวัดบวรนิเวศวิหารมาก เพียงต่างกันในรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น
นอก จากนั้นเชื่อกันว่า “ขรัวอินโข่ง” เป็นจิตรกรท่านแรกของไทยที่เป็นผู้เขียนภาพคนเหมือน ภาพที่น่าเชื่อว่าเป็นภาพเหมือนภาพแรกคือ ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันภาพดังกล่าวประดิษฐานอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ตามหลังฐานที่ปรากฏอยู่ทำให้เชื่อว่าพระบรมรูปชิ้นนี้เป็นงานพอร์ตเทรตชิ้น แรกของเมืองไทย
ผลงานของ “ขรัวอินโข่ง” จัดว่าเป็นมรดกทางศิลปกรรมชั้นเยี่ยมที่ทรงคุณค่าที่สุดในบรรดาจิตรกรสมัย รัตนโกสินทร์ ท่านเป็นเอกอัจฉริยะจิตรกรต้นแบบที่มีพรสวรรค์ในด้านการใช้สี การวางภาพและริเริ่มการเขียนภาพที่มีมิติ จนกล่าวได้ว่า “ขรัวอินโข่ง” เป็นศิลปินช่างเขียนชั้นบรมครูที่ฝากผลงานด้านจิตรกรรมไว้มากมายจนได้รับการ ยกย่องมาจนถึงปัจจุบัน